Banner 468

*

เกี๊ยวยักษ์ สร้างจุดขาย ทำเงิน

 

แม้แต่อาชีพขายอาหารก็ยังจำเป็นที่จะต้องสร้างจุดเด่น เฟ้นจุดขาย เพราะนอกจากจะช่วยให้เกิดความแตกต่างแล้ว ก็ยังเสริมให้ลูกค้าจดจำเอกลักษณ์ของร้านค้าได้อีกด้วย อย่างเช่น เกี๊ยวยักษ์ ของ หนึ่ง-ธนัตถ์ธิติ อยู่คำ ที่สามารถทำให้เมนูก๋วยเตี๋ยวธรรมดา ๆ กลายเป็นเมนู-เป็น ช่องทางทำกิน ที่น่าสนใจ

หนึ่ง-ธนัตถ์ธิติ ชายหนุ่มผมยาววัย 41 ปี เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวชื่อแปลก ลุงหนึ่งเกี๊ยวยักษ์ บอกกับเราว่า ร้านของเขาเปิดขายมาได้ 4-5 ปีแล้ว โดยมี 2 สาขาคือ ที่ศูนย์อาหารเมืองทองธานี และที่ร้านบนถนนอินทราวาส ย่านตลิ่งชัน โดยแต่เดิมก็ทำเมนูก๋วยเตี๋ยวขายทั่ว ๆ ไป จนครั้งหนึ่งมีกลุ่มเด็กนักเรียนมาบอกว่า ที่ร้านไม่มีเกี๊ยวตัวโตกว่านี้บ้างหรือ จึงเกิดไอเดียว่าถ้าจะทำเกี๊ยวขนาดใหญ่กว่าขนาดปกติ น่าจะสร้างจุดสนใจ และดึงดูดลูกค้าได้ จึงทดลองทำออกมาทั้งเกี๊ยวหมูและเกี๊ยวกุ้ง ปรากฏว่าลูกค้าติดใจมาก และกลายมาเป็นจุดขายของทางร้านที่ลูกค้าใช้เรียกและบอกต่อ ๆ กันแบบปากต่อปาก จนกลายมาเป็นที่มาของชื่อร้านจนถึงปัจจุบัน
จุดเริ่มต้นเริ่มจากที่มีเด็กนักเรียนกลุ่มหนึ่ง ตะโกนสั่งเกี๊ยวชิ้นใหญ่ ๆ แค่ประโยคสั้น ๆ ทำให้ฉุกคิดว่าถ้าสามารถทำเกี๊ยวขนาดใหญ่กว่าปกติ น่าจะแปลกและมีจุดขายมากขึ้น จึงเป็นที่มาของเกี๊ยวยักษ์ในวันนี้ เจ้าของร้านกล่าว


และนอกจาก เกี๊ยวยักษ์ ที่เป็นจุดขายแล้ว เมนูปกติก็ถือว่าสำคัญไม่แพ้กัน โดยที่ร้านจะมีเมนูก๋วยเตี๋ยวที่เป็นเมนูยอดนิยม อย่างเช่น ก๋วยเตี๋ยวต้มยำลูกชิ้นหมูเด้ง บะหมี่แห้ง บะหมี่น้ำ บะหมี่ต้มยำ โดยขายในราคาชามละ 35 บาท ส่วนเกี๊ยวยักษ์นั้นหากลูกค้าต้องการเพิ่มก็จะขายแยกออกมาเป็นเมนูเสริม สำหรับทานเคียงกับเมนูก๋วยเตี๋ยว โดยจำหน่ายอยู่ที่ราคาลูกละ 7 บาท สำหรับเกี๊ยวหมู และราคาลูกละ 10 บาท สำหรับเกี๊ยวกุ้ง

แต่ละวันจะผลิตเกี๊ยวยักษ์ขายแบบหมดแล้วก็จะหมดเลย ไม่มีเพิ่ม เจ้าของร้านระบุ

ทุนเบื้องต้นอาชีพนี้ ใช้ประมาณ 20,000 บาทขึ้นไป โดยส่วนใหญ่เป็นค่าอุปกรณ์ที่ใช้ในการผลิตเกี๊ยว โดยงบลงทุนส่วนนี้ไม่รวมค่าเช่าร้าน ค่าเช่าพื้นที่ ค่าอุปกรณ์ตกแต่งร้าน ส่วนทุนวัตถุดิบอยู่ที่ประมาณ 70% ของราคาขาย รายได้นั้นก็จะมี 2 ทาง จากเมนูก๋วยเตี๋ยว และเมนูเกี๊ยวยักษ์ ราคาก๋วยเตี๋ยวอยู่ที่ชามละ 35 บาท ส่วนเกี๊ยวยักษ์ลูกละ 7-10 บาท

เครื่องมือและอุปกรณ์หลัก ๆ ประกอบด้วย เครื่องบดเนื้อหมู และเครื่องตีแป้ง สำหรับตีส่วนผสม ที่เหลือเป็นอุปกรณ์ทั่ว ๆ ไปสำหรับร้านก๋วยเตี๋ยว อาทิ หม้อต้มก๋วยเตี๋ยว, ภาชนะใส่ก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ

ส่วนผสมในการทำเกี๊ยวหมู-เกี๊ยวกุ้ง ต่อจำนวน 200 ลูก ประกอบไปด้วย เนื้อหมูสับบดละเอียด ประมาณ 10 กิโลกรัม, แป้งมัน 1 กิโลกรัม, ไข่ไก่ 10 ฟอง ส่วนถ้าเป็นเกี๊ยวกุ้ง จะเปลี่ยนจากการใช้เนื้อหมูเป็นการใช้กุ้งขาว 200 ตัวแทน โดย กุ้ง 1 ตัว ต่อเกี๊ยวยักษ์ 1 ลูก ส่วนเครื่องปรุง ใช้เพียงพริกไทย 3 ช้อนโต๊ะ เพื่อเพิ่มรสชาติ ที่ไม่ใช้พริกไทยมาก เพราะอาจจะเผ็ดเกินไปสำหรับลูกค้าที่เป็นเด็กเล็ก


ขั้นตอนการทำเกี๊ยวยักษ์
สูตรลุงหนึ่ง เริ่มจากนำเนื้อหมูมาบดด้วยเครื่องบดให้ละเอียด จากนั้นนำมาสับด้วยมีดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้ได้เนื้อหมูที่มีความละเอียดมากขึ้น จากนั้นนำแป้งมันที่เตรียมไว้แล้วมาผสมกับไข่ไก่ คลุกเคล้าให้เข้ากัน หรือใช้เครื่องตีแป้งตีให้เข้ากันรอบหนึ่ง เมื่อได้ที่แล้วนำเนื้อหมูบดสับละเอียดที่เตรียมไว้ใส่ลงไป จากนั้นใช้มือคลุกเคล้าให้แป้งมันและไข่ไก่เข้าเนื้อกัน ปล่อยทิ้งไว้ 1-2 ชั่วโมง เพื่อให้ส่วนผสมซึมซับเข้าสู่เนื้อหมู

หลังจากครบกำหนดแล้ว นำส่วนผสมที่ได้มาห่อด้วยแผ่นแป้งเกี๊ยว เป็นอันพร้อมใช้ ซึ่งแผ่นเกี๊ยวสามารถใช้ที่มีจำหน่ายสำเร็จรูปอยู่ทั่วไป เพียงแต่เอามาตัดขนาดให้ได้ตามขนาดที่ต้องการ

ถ้าเป็นการทำเกี๊ยวกุ้ง ก็นำหมูสับบดละเอียดมาห่อเข้าที่ตัวกุ้ง ก่อนที่จะห่อด้วยแผ่นแป้งเกี๊ยว ก็เป็นอันเสร็จ

รายได้จากการขายเกี๊ยวกุ้งและเกี๊ยวหมูนั้น ต่อ 200-300 ลูก จะมีรายได้ก่อนหักทุนประมาณ 1,400-3,000 บาทเจ้าของสูตรเมนูเกี๊ยวยักษ์ระบุ ซึ่งก็ถือว่าเป็นรายได้น่าสนใจ ที่นอกเหนือไปจากรายได้ของเมนูก๋วยเตี๋ยว

เจ้าของสูตรบอกด้วยว่า เน้นให้ลูกค้าประทับใจและติดใจในรสชาติ มากกว่าที่จะเน้นขายเอากำไรเยอะ ๆ ถือว่าลูกค้าอยู่ได้ร้านก็อยู่ได้ ซึ่งในอนาคตเขามีเป้าหมายที่จะผลิตเกี๊ยวยักษ์ให้มากขึ้น เพื่อขายส่งอีกทางหนึ่งด้วย

ร้านลุงหนึ่งเกี๊ยวยักษ์ ตั้งอยู่ที่เลขที่ 32 หมู่ 21 ถนนอินทราวาส แขวงบางระมาด เขตตลิ่งชัน กรุงเทพฯ โทร. 08-2962-7807 เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10 โมงเช้า ถึง 4 โมงเย็น แต่ เกี๊ยวยักษ์ มักจะขายหมดก่อนเวลาปิดร้าน ซึ่งนี่ก็ถือเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของ
ความ ช่างคิด-ช่างทำ ที่แม้แต่คนในอาชีพขายอาหาร ก็ไม่ควรขาดจุดนี้.

ที่มา : เดลินิวส์